The FACTs of Facelift Surgery [Part2]
เมื่อวงการแพทย์พัฒนาขึ้น ทุกคนอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลง การผ่าตัดดึงหน้า จึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความเข้าใจผิด เกิดการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริงขึ้นมากมาย ทำให้หลายคนได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามหลักการแพทย์ และเสียเงินจำนวนมาก ด้วยความคาดหวังเกินจริง เพราะหลงเชื่อตามคำโฆษณา
หมอไม่อยากให้ใครต้องถูกหลอกอีก!!!!! ขอให้ข้อมูลการผ่าตัดดึงหน้า ตามหลักการแพทย์ ตามความเป็นจริง ดังนี้
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า ???
คนไข้ที่มาปรึกษาหมอมักจะมีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ
กลุ่มแรก คือคนที่มีปัญหาจริงๆ หมายความว่าใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัย เช่น คนไข้อายุแค่ 30 กว่าปี แต่ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก มีริ้วรอยมากเหมือนคนอายุ 50 ปี ในกลุ่มนี้ การทำศัลยกรรมดึงหน้า ถือเป็นการรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่ง เพราะเมื่อทำศัลยกรรมดึงหน้าให้กลับมาสมวัย เขาก็จะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น สามารถเข้าสังคมได้ดีขึ้น นี่คือกลุ่มที่มีปัญหาจริงๆ ทำเพื่อการรักษาโดยตรง (Therapeutic Facelift) การผ่าตัดดึงหน้าในคนไข้กลุ่มนี้ ทางการแพทย์ ถือว่า สมควรทำอย่างยิ่ง การผ่าตัดมักจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และ คนไข้มีความพึงพอใจในระดับสูง
ดังนั้น หากคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็สามารถปรึกษาหมอ ผ่าตัดดึงหน้าเพื่อการรักษาได้เลยครับ
อีกกลุ่มคือ เป็นคนไข้ที่เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัย แต่อยากให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน การผ่าตัดกลุ่มนี้ทำเพื่อความสวยงาม (Cosmetic Facelift) ตามหลักการแพทย์ จึงไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับทุกๆคน
หากคุณสนใจดึงหน้า และเป็นคนในกลุ่มนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมาปรึกษาและตรวจวิเคราะห์กับแพทย์ก่อนว่า
- สมควรผ่าตัดดึงหน้าหรือไม่ ?
- ควรทำส่วนใดบ้าง ? ใบหน้าส่วนบน หน้าผาก หางตา หางคิ้ว ใบหน้าส่วนล่าง หรือ คอ เป็นต้น
โดยทั่วไปคนไข้กลุ่มนี้มักจะไม่ได้มีปัญหาทั้งใบหน้า ไม่ได้หย่อนคล้อยหมดในทุกๆส่วน และหมอไม่แนะนำให้ทำเยอะๆ ควรทำเฉพาะส่วนที่หย่อนคล้อย เป็นปัญหาจริงๆ หรือส่วนที่ไม่มั่นใจมากที่สุดก่อน
ดังนั้น หากคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ศึกษาหาข้อมูลก่อน ไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อรับข้อมูลอย่างครบถ้วน (ปกติหมอจะพูดคุย ทำความเข้าใจกับคนไข้กลุ่มนี้ อย่างน้อย 2-3 ครั้ง แนะนำให้ทำน้อยๆ ตรงปัญหา ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาตามหลักการแพทย์ ก่อนการตัดสินใจ) อย่าด่วนตัดสินใจ เพราะดูจากรีวิวสวย ๆ อย่างเดียวครับ
สิ่งที่เราควรต้องรู้ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ยังมีอีกมากครับ เช่น
- ดูแลตัวเองอย่างไรก่อน - หลังผ่าตัด ?
- แผลผ่าตัดอยู่บริเวณใด ? ดูแลแผลอย่างไร ?
- ระยะเวลาพักฟื้น ประมาณกี่วัน กี่สัปดาห์ ?
- ผลแทรกซ้อนทางการแพทย์มีอะไรได้บ้าง โอกาสเกิดกี่เปอร์เซนต์ ?
etc......
สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจ และการคาดหวัง ต้องเป็นไปตามความเป็นจริงด้วยครับ
พยายามอย่าหลงเชื่อตามคำโฆษณามากเกิน หรือ คาดหวังเกินจริง เช่น ต้องการหน้าเด็กลง 20-30 ปี ผ่าตัดโดยไม่มีแผล ไม่บวมช้ำ ทางการแพทย์ ไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น เมื่อเราคาดหวังเกินจริง ก็มักจะจบลงด้วยความผิดหวังเสมอ
ด้วยความปรารถนาดี
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.บางมด
#TheFacts #Facelift
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เมื่อวงการแพทย์พัฒนาขึ้น ทุกคนอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลง การผ่าตัดดึงหน้า จึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความเข้าใจผิด เกิดการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริงขึ้นมากมาย ทำให้หลายคนได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามหลักการแพทย์ และเสียเงินจำนวนมาก ด้วยความคาดหวังเกินจริง เพราะหลงเชื่อตามคำโฆษณา
หมอไม่อยากให้ใครต้องถูกหลอกอีก!!!!! ขอให้ข้อมูลการผ่าตัดดึงหน้า ตามหลักการแพทย์ ตามความเป็นจริง ดังนี้
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า ???
คนไข้ที่มาปรึกษาหมอมักจะมีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ
กลุ่มแรก คือคนที่มีปัญหาจริงๆ หมายความว่าใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัย เช่น คนไข้อายุแค่ 30 กว่าปี แต่ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก มีริ้วรอยมากเหมือนคนอายุ 50 ปี ในกลุ่มนี้ การทำศัลยกรรมดึงหน้า ถือเป็นการรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่ง เพราะเมื่อทำศัลยกรรมดึงหน้าให้กลับมาสมวัย เขาก็จะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น สามารถเข้าสังคมได้ดีขึ้น นี่คือกลุ่มที่มีปัญหาจริงๆ ทำเพื่อการรักษาโดยตรง (Therapeutic Facelift) การผ่าตัดดึงหน้าในคนไข้กลุ่มนี้ ทางการแพทย์ ถือว่า สมควรทำอย่างยิ่ง การผ่าตัดมักจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และ คนไข้มีความพึงพอใจในระดับสูง
ดังนั้น หากคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็สามารถปรึกษาหมอ ผ่าตัดดึงหน้าเพื่อการรักษาได้เลยครับ
อีกกลุ่มคือ เป็นคนไข้ที่เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัย แต่อยากให้ใบหน้าเด็กกว่าวัย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน การผ่าตัดกลุ่มนี้ทำเพื่อความสวยงาม (Cosmetic Facelift) ตามหลักการแพทย์ จึงไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับทุกๆคน
หากคุณสนใจดึงหน้า และเป็นคนในกลุ่มนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมาปรึกษาและตรวจวิเคราะห์กับแพทย์ก่อนว่า
- สมควรผ่าตัดดึงหน้าหรือไม่ ?
- ควรทำส่วนใดบ้าง ? ใบหน้าส่วนบน หน้าผาก หางตา หางคิ้ว ใบหน้าส่วนล่าง หรือ คอ เป็นต้น
โดยทั่วไปคนไข้กลุ่มนี้มักจะไม่ได้มีปัญหาทั้งใบหน้า ไม่ได้หย่อนคล้อยหมดในทุกๆส่วน และหมอไม่แนะนำให้ทำเยอะๆ ควรทำเฉพาะส่วนที่หย่อนคล้อย เป็นปัญหาจริงๆ หรือส่วนที่ไม่มั่นใจมากที่สุดก่อน
ดังนั้น หากคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ศึกษาหาข้อมูลก่อน ไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อรับข้อมูลอย่างครบถ้วน (ปกติหมอจะพูดคุย ทำความเข้าใจกับคนไข้กลุ่มนี้ อย่างน้อย 2-3 ครั้ง แนะนำให้ทำน้อยๆ ตรงปัญหา ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาตามหลักการแพทย์ ก่อนการตัดสินใจ) อย่าด่วนตัดสินใจ เพราะดูจากรีวิวสวย ๆ อย่างเดียวครับ
สิ่งที่เราควรต้องรู้ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ยังมีอีกมากครับ เช่น
- ดูแลตัวเองอย่างไรก่อน - หลังผ่าตัด ?
- แผลผ่าตัดอยู่บริเวณใด ? ดูแลแผลอย่างไร ?
- ระยะเวลาพักฟื้น ประมาณกี่วัน กี่สัปดาห์ ?
- ผลแทรกซ้อนทางการแพทย์มีอะไรได้บ้าง โอกาสเกิดกี่เปอร์เซนต์ ?
etc......
สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจ และการคาดหวัง ต้องเป็นไปตามความเป็นจริงด้วยครับ
พยายามอย่าหลงเชื่อตามคำโฆษณามากเกิน หรือ คาดหวังเกินจริง เช่น ต้องการหน้าเด็กลง 20-30 ปี ผ่าตัดโดยไม่มีแผล ไม่บวมช้ำ ทางการแพทย์ ไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น เมื่อเราคาดหวังเกินจริง ก็มักจะจบลงด้วยความผิดหวังเสมอ
ด้วยความปรารถนาดี
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง รพ.บางมด
#TheFacts #Facelift
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
