เจาะประเด็น “ใครบ้างที่ไม่ควรทำศัลยกรรม” 

ในปัจจุบันถ้าจะพูดถึง ‘การศัลยกรรม’ กลายเป็นเรื่องปกติที่สังคมยอมรับกันได้มากขึ้นแพร่หลาย ยิ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมากในปัจจุบัน การทำศัลยกรรมจึงกลายเป็นการทำสวย ที่สนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ

แต่ทว่าการทำศัลยกรรมในบางครั้ง ก็นำมาซึ่งอันตรายอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ หรือบางครั้งก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คนอยากสวยคาดหวัง หรือผิดพลาดจนยากที่จะแก้ไข เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการศัลยกรรม จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ใครบ้างที่ไม่ควรทำศัลยกรรม” มาหาคำตอบกับ นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด 



คุณหมอคะ ... ใครบ้างที่ไม่ควรทำศัลยกรรม ?
มีกลุ่มคนอยู่ 3 ประเภทที่ไม่ควรทำศัลยกรรมความงาม 

1. คนที่มีความสวยความหล่อ หรือมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว เพราะการทำศัลยกรรมที่ดีควรจะทำเฉพาะส่วนที่เรามีปัญหาจริง ๆ เท่านั้น หากเป็นคนที่มีโครงสร้างหน้าตาที่ดีอยู่แล้ว คุณหมอก็จะไม่แนะนำให้ทำศัลยกรรมความงาม

2. คนที่ยังมีความกลัว ความกังวลอยู่ กลัวทำแล้วไม่สวย กลัวทำแล้วมีแผล กลัวว่าหมอไม่เก่งจริง คนกลุ่มนี้จึงยังไม่พร้อมจะทำศัลยกรรมความงาม หากยังกลัวหรือกังวลอยู่ คุณหมอจะแนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน เช่น มาปรึกษาแพทย์ก่อนว่าทำแล้วมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร มีวิธีการดูแลตัวเองก่อน-หลังผ่าตัดอย่างไร หาข้อมูลให้มากขึ้น และเมื่อมีข้อมูลที่พร้อมแล้ว หายกลัว หายกังวล เมื่อนั้นถึงจะทำศัลยกรรมได้

3. คนที่มีความคาดหวังมากเกินไป โครงสร้างร่างกายของเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่จะทำให้ออกมาเหมือนกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ บางคนเอารูปดารามาให้คุณหมอดู คือต้องการทำให้เหมือนเป๊ะเลย ซึ่งหมายความว่าเรามีความคาดหวังสูงเกินไป หมอก็จะแนะนำว่าควรจะมาปรึกษา วิเคราะห์กันก่อนว่าบางคนทำได้แค่ไหนถึงจะพอดี และควรจะคาดหวังให้ตามความเป็นจริงดีกว่า



คนที่มีโรคประจำตัวทำศัลยกรรมได้ไหม ?
คนที่มีโรคประจำตัวสามารถทำศัลยกรรมได้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำศัลยกรรมความงามไม่ใช่สิ่งที่รีบร้อน ไม่ใช่ต้องทำภายในวันสองวันนี้ และคนที่มีโรคประจำตัวจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม อย่างแรกคือ เป็นโรคที่รักษาหายได้ เช่น เป็นหวัด เป็นสิว มีไข้ ควรจะรักษาให้หายก่อนแล้วค่อยมาทำศัลยกรรมความงาม
ต่อมาคือโรคที่รักษาไม่หายหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน หรือโรคหัวใจ หากรักษาไม่หายขาด ก็ควรจะคุมให้อยู่ในระดับปกติก่อนผ่าตัด เช่น โรคเบาหวานก็ควรจะคุมน้ำตาลให้ดี โรคความดันก็ควรทานยาความดันให้ครบ จนความดันอยู่ระดับปกติ การทำศัลยกรรมความงามก็ไม่ได้มีผลแทรกซ้อนอะไรที่มากกว่าคนทั่วไป แต่ควรจะบอกโรคประจำตัวกับแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อตรวจร่างกายให้พร้อมก่อนผ่าตัด



อายุเท่าไหร่ถึงควรจะเริ่มทำศัลยกรรม ?
แนะนำง่ายๆ ว่าควรจะเริ่มทำเมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ มีวิจารณญาณแล้วว่า อันไหนดีหรือไม่ดี มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร

อีกข้อคือเราต้องดูว่าอวัยวะต่าง ๆ เจริญเติบโตเต็มที่แล้วหรือยัง ยกตัวอย่างเช่น การทำจมูก การตัดกราม หรือที่เกี่ยวกับโครงสร้างบนใบหน้า ควรจะทำเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว คือ ประมาณอายุ 18 ปี จะได้ไม่ต้องมาแก้บ่อยๆ หากทำตอนอายุยังน้อย พอร่างกายเราเปลี่ยน โครงสร้างกระดูกก็เปลี่ยนเราก็ต้องมาทำใหม่ ฉะนั้นจึงต้องดูสองอย่างคือ การบรรลุนิติภาวะ และการหยุดเจริญเติบโตของโครงสร้างร่างกาย


นอกจากคลินิกเถื่อน และหมอกระเป๋าแล้ว การทำศัลยกรรมในปัจจุบัน ต้องระวังอะไรอีกบ้าง ?
อีกอย่างที่เราต้องระวังคือ การหาข้อมูล ปัจจุบันมีข้อมูลหลากหลาย โดยเฉพาะทางอินเตอร์เน็ตที่มีการลงภาพ ก่อน-หลังผ่าตัด ซึ่งความจริงอาจมีการตัดต่อได้ คำโฆษณาที่เกินความจริง จึงอยากให้ระวังไว้
สิ่งที่สำคัญเวลาจะหาข้อมูลก่อนทำศัลยกรรมความงามคือ การหาจากข้อมูลตรง เช่น การปรึกษาแพทย์โดยตรงว่าทำอย่างไรจึงจะปลอดภัย หรือถามจากคนที่เคยทำศัลยกรรมมาแล้วว่ามีประสบการณ์อย่างไร หรือมาที่โรงพยาบาล/คลินิก เพื่อมาดูลักษณะและดูความสะอาด รวมถึงมีเครื่องมืออุปกรณ์เป็นอย่างไร ฉะนั้นจึงควรรับจากข้อมูลตรงมากกว่าการดูโฆษณาที่เกินจริง

คนหนึ่งสามารถทำศัลยกรรมได้กี่ครั้ง ?
ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่าคนหนึ่งจะสามารถทำศัลยกรรมได้กี่ครั้งและจะปลอดภัย เพราะอยู่ที่วิธีการทำ บางคนทำศัลยกรรมมา 20-30 ครั้ง หมอก็เคยเจอ แต่ว่าก่อนจะทำก็ต้องมาตรวจวิเคราะห์ก่อน
จริงๆ เวลาเราดูรีวิวบอกว่า ถ้าทำศัลยกรรมดีๆ ควรทำเยอะๆ ความจริงแล้วเป็นความคิดที่ผิด การทำศัลยกรรมความงามจริงๆ ควรจะทำให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บางคนมาปรึกษาคุณหมอ ก็อยากจะทำหลายอย่างทั้งหน้าเลย แต่หลังจากตรวจวิเคราะห์แล้วจะแนะนำว่าส่วนไหนที่จำเป็นที่สุดแล้วให้ทำส่วนนั้นก่อน ฉะนั้นการทำศัลยกรรมที่ดีคือ ต้องทำให้น้อยที่สุด ก็ยิ่งปลอดภัยและมีผลแทรกซ้อนน้อย



แค่ไหนถึงจะเรียกว่า ไม่เสพติดศัลยกรรม ?
ก่อนอื่นต้องถามใจตัวเองก่อนว่าเราทำเพื่ออะไร บางคนมีความบกพร่องหลายอย่าง ทั้งตา จมูก หน้าอก และเป็นปัญหาหรือปมด้อยในชีวิตจริงๆ อย่างนี้ก็ไม่ถือว่าเสพติด แต่หากว่าโครงสร้างดีอยู่แล้ว พอทำแล้วก็อยากแก้เรื่อยๆ โดยที่ไม่มีที่สิ้นสุด ถึงแม้จะทำแค่อย่างสองอย่างแต่ทำในส่วนที่ไม่ควรทำ อันนี้จะถือว่าเสพติดศัลยกรรมได้
ฉะนั้นจุดประสงค์การทำของเราขึ้นอยู่กับความพอใจ หากพอใจและคาดหวังตามความเป็นจริง เห็นว่าส่วนนั้นควรแก้ไขก็ทำ ก็จะไม่ถือว่าเสพติดศัลยกรรม


ทำศัลยกรรมอย่างไร จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี 
1. การทำน้อย เพราะคนทั่วไปจะเข้าใจว่า การทำศัลยกรรมที่ดีควรจะทำเยอะๆ จริงๆแล้วเราควรจะทำในจุดที่เรามีปัญหาจริงๆ ยิ่งทำน้อยยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
2. การรู้จักเลือก ทั้งการเลือกสถานที่ การเลือกแพทย์ที่จบเฉพาะทาง วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และความปลอดภัย มากกว่าจะเลือกที่ราคา เพราะศัลยกรรมเป็นการผ่าตัดกับร่างกายเรา ซึ่งจะมีผลกระทบมากและอาจจะแก้ไขได้ยาก
3. ความพอดี เพราะบางคนก็ทำอะไรที่มากเกินไป เช่น การเสริมจมูก อยากจะเสริมโด่งเกินไป หรือการเสริมหน้าอกก็อยากจะทำใหญ่ๆ จนเกินโครงสร้าง ตอนแรกๆ อาจจะสวย แต่ในระยะยาวจะมีผลแทรกซ้อนเยอะ เช่น จมูกอาจจะทะลุได้ หรือเสริมหน้าอกที่ใหญ่เกินไป เวลาผ่านไปอาจจะไม่เป็นธรรมชาติได้ หน้าอกจะคล้อยลง หรือหน้าอกแข็งได้ ฉะนั้นการทำศัลยกรรมที่ดีควรทำให้พอดีกับร่างกายด้วย


เทคนิคเฉพาะ ของทางโรงพยาบาลบางมด ที่เรียกว่า เทคนิคบางมด เป็นอย่างไร ?
สิ่งสำคัญ คือ เราคำนึงถึงคนไข้เป็นสำคัญ ทำอย่างไรให้คนไข้ ได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้น “เทคนิคบางมด” เราพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ คือ แผลเล็ก เจ็บน้อย หายเร็ว และเป็นธรรมชาติ
ยกตัวอย่างเช่น การทำตาสองชั้น จะคิดว่า ทำอย่างไรให้แผลเล็ก เจ็บน้อย และมีแผลเป็นน้อยที่สุด เราก็จะใช้เลเซอร์ช่วย ส่วนการเสริมหน้าอกก็จะใช้การส่องกล้องช่วย และเทคนิคแบบ Dual Plane สรุปแล้วก็คือ เป็นเทคนิคที่ปลอดภัย เจ็บน้อยและหายเร็วที่สุด เพื่อให้คนไข้ได้รับประโยชน์สูงที่สุด
กล่าวโดยสรุปแล้ว การทำศัลยกรรมของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน แต่หากอยากได้คำแนะนำและผลลัพธ์ที่ดีควรจะเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมโดยตรง จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด



 “ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด บิวตี้"






“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”

ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่ 

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE@ : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เพิ่มเพื่อน