เป๊ะก่อนใคร! ส่อง เทรนด์ศัลยกรรม มาแรง ในปี 2018
ถ้าใครได้ติดตาม 5 อันดับ รายการศัลยกรรมสุดฮิต ของปี 2017 ไปแล้ว คงทราบแล้วนะคะว่า ตำแหน่ง แชมป์ และรองแชมป์ ของการทำศัลยกรรมความงามในปี 2017 คือ ศัลยกรรมดึงหน้า และ ศัลยกรรมเสริมสะโพก นั่นเอง ซึ่งในวันนี้จะขอเจาะลึกรายละเอียด เทรนด์ศัลยกรรม ที่มาแรงสุด ๆ ในปี 2018 กันค่ะ
ศัลยกรรมดึงหน้า
ปัจจุบันนี้คนที่มีอายุมาก ผิวหน้าหย่อนคล้อย จะนิยมมาดึงหน้ากันมากขึ้น ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย มาพร้อมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนมากที่มาทำ ศัลยกรรมดึงหน้า อายุประมาณ 45+ ขึ้นไป โดยแพทย์จะใช้เทคนิคคือแพทย์จะใช้วิธีการดึงชั้นกล้ามเนื้อด้านในของใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงกว่าวิธีทั่วไป ที่จะดึงจากชั้นผิวหนังเพียงเท่านั้น ทำให้มีโอกาสกลับมาหย่อนยานใหม่สูง การดึงหน้าด้วย “เทคนิคบางมด” ให้ผลลัพธ์คงทนถาวรกว่า ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย อีกทั้งยังใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยเพียง 2-3 ชม. เกิดแผลบวมช้ำน้อย ระยะเวลาพักฟื้นเพียง 1 วันก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว
คำถามที่พบบ่อย
Q : คุณหมอคะ การผ่าตัดดึงหน้าด้วย เทคนิคบางมด มีข้อดีอย่างไรบ้างคะ ?
A : การผ่าตัดดึงหน้าด้วย เทคนิคบางมด กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้ครับ
1. ฉีดยาชาเฉพาะที่ แทนการดมยาสลบ จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จะไม่เสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนจากการดมยาสลบครับ
2. ใช้เวลาผ่าตัดเร็วขึ้นเพียง 2-3ชม. ทำให้เนื้อเยื่อบวมช้ำน้อยลง และเวลาพักฟื้น เข้าที่เร็วขึ้นครั
3. ดึงหน้าในชั้นลึก (SMAS) ร่วมด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และอยู่คงทนถาวรมากขึ้นครับ
4. สามารถเลือกทำเป็นส่วน ๆ ที่มีปัญหาได้ โดยแบ่งใบหน้าเป็น 4 ส่วน ดังนี้
4.1 ดึงหางตา (Temporal lift) เพื่อแก้ไขหางตาที่ตก ให้ยกขึ้น และแก้รอยตีนกา (Crow’ s feet) บริเวณหางตา ทำให้ใบหน้าส่วนบนตึงขึ้น โหนกแก้มยกสูงขึ้น
4.2 ดึงหน้าส่วนกลาง (Midface lift) เพื่อยกโหนกแก้มขึ้น ทำให้ใบหน้าส่วนกลางตึงขึ้น
4.3 ดึงหน้าส่วนล่าง (SMASectomy + plication) เพื่อแก้ไขปัญหาร่องแก้ม (Nasolabial fold) ที่ลึกให้จางลง, แก้ไขร่องน้ำหมาก (Marionette line) ให้จางลง ทำให้ใบหน้าส่วนล่างตึงขึ้น ใบหน้าส่วนล่างที่หย่อน (Jowl) ถูกยกขึ้น ทำให้ดูเรียวขึ้นเป็น V-shape
4.4 ดึงคอ (Necklift) ทำให้ลำคอตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และเหนียงบริเวณคอ เพื่อให้เข้ากับส่วนของใบหน้าที่อ่อนวัยลง
ศัลยกรรมเสริมสะโพก
ตามติดกันมาเลยกับ ศัลยกรรมเสริมสะโพก กำลังมาแรงในช่วงปี 60 นี้ และกำลังเป็นที่สนใจในหมู่สาวๆ และในปี 61 นั้น ศัลยกรรมเสริมสะโพก จะต้องเป็น ศัลยกรรม ที่มาแรงแซงทางโค้งแน่นอน เพราะสาวๆหลายคนสนใจและมีการจองคิวผ่าตัดกันหนาแน่นเลยทีเดียว ศัลยกรรมเสริมสะโพก นั้นมีเพียงที่เดียวคือที่ โรงพยาบาลบางมด เท่านั้นที่ทำออกมาแล้วสวยดูเป็นธรรมชาติโดยมีเทคนิคที่ทันสมัยพร้อมกับซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจึงทำให้เหล่า ดารา นักแสดง และนางแบบ ต่างพากันสนใจนัดจองคิดผ่าตัดกับคุณหมอ
การเสริมก้น หรือเสริมสะโพกนั้น วิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ค่ะ วิธีแรก คือ การดูดไขมันตัวเอง มาฉีด (Lipofilling) เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินมาก สามารถดูดมาฉีดที่สะโพกหรือก้นได้ แต่ข้อเสีย คือ ไขมันมีโอกาสสลายได้ มีโอกาสแข็งเป็นก้อน ไม่เรียบ และ กำหนดรูปทรงได้ลำบาก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะคนที่รูปร่างผอม มักมีไขมันไม่เพียงพอที่จะดูดมาเสริมได้ค่ะวิธีต่อมา ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่า ปลอดภัย และได้ผลดีมาก คือ การเสริมด้วยถุงซิลิโคนเฉพาะสำหรับก้นและสะโพก (Gluteal implant) คล้ายๆ การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนครับ แต่เป็นถุงซิลิโคนเฉพาะสำหรับเสริมก้น รองรับแรงและ น้ำหนักได้มากกว่า สามารถเลือกขนาดและรูปทรงที่ต้องการได้ โดยแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณร่องก้น ข้อดีของวิธีนี้ นอกจากสวย ปลอดภัยแล้ว หากเกิดปัญหาในอนาคต ก็สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ค่ะ
ในสมัยก่อนการเสริมด้วยวิธีใช้ถุงซิลิโคนนั้น จะทำให้ก้นค่อนข้างแข็งและสัมผัสไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก แต่ในปัจจุบัน เรามีถุงซิลิโคนมีคุณภาพดีกว่าเดิม มีทั้งรูปทรงกลม วงรี หรือหยดน้ำ รวมทั้งมีวิธีการผ่าตัดที่จะผ่าบริเวณง่ามก้นทำให้ไม่เห็นรอยแผลเป็นชัด จากนั้น แพทย์จะใส่ถุงซิลิโคนไปในบริเวณกล้ามเนื้อก้นทั้งสองข้าง ส่วนจะเลือกขนาดหรือถุงรูปร่างแบบใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน และเทคนิคการผ่าตัดก็จะคล้าย ๆ กับการผ่าตัดเสริมเต้านมทั่วไป แต่อยากสวยก็ต้องทน เพราะคุณจะไม่สามารถนั่งได้ และต้องนอนอยู่ในท่าคว่ำ หรือตะแคงซ้าย–ขวา ห้ามนอนหงาย 3-5 วัน จากนั้นในเวลา 7-10 วันก็จะกลับกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติค่ะ
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Website : www.bangmodaesthetic.com
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
ถ้าใครได้ติดตาม 5 อันดับ รายการศัลยกรรมสุดฮิต ของปี 2017 ไปแล้ว คงทราบแล้วนะคะว่า ตำแหน่ง แชมป์ และรองแชมป์ ของการทำศัลยกรรมความงามในปี 2017 คือ ศัลยกรรมดึงหน้า และ ศัลยกรรมเสริมสะโพก นั่นเอง ซึ่งในวันนี้จะขอเจาะลึกรายละเอียด เทรนด์ศัลยกรรม ที่มาแรงสุด ๆ ในปี 2018 กันค่ะ
ศัลยกรรมดึงหน้า
ปัจจุบันนี้คนที่มีอายุมาก ผิวหน้าหย่อนคล้อย จะนิยมมาดึงหน้ากันมากขึ้น ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย มาพร้อมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนมากที่มาทำ ศัลยกรรมดึงหน้า อายุประมาณ 45+ ขึ้นไป โดยแพทย์จะใช้เทคนิคคือแพทย์จะใช้วิธีการดึงชั้นกล้ามเนื้อด้านในของใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงกว่าวิธีทั่วไป ที่จะดึงจากชั้นผิวหนังเพียงเท่านั้น ทำให้มีโอกาสกลับมาหย่อนยานใหม่สูง การดึงหน้าด้วย “เทคนิคบางมด” ให้ผลลัพธ์คงทนถาวรกว่า ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย อีกทั้งยังใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยเพียง 2-3 ชม. เกิดแผลบวมช้ำน้อย ระยะเวลาพักฟื้นเพียง 1 วันก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว
คำถามที่พบบ่อย
Q : คุณหมอคะ การผ่าตัดดึงหน้าด้วย เทคนิคบางมด มีข้อดีอย่างไรบ้างคะ ?
A : การผ่าตัดดึงหน้าด้วย เทคนิคบางมด กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้ครับ
1. ฉีดยาชาเฉพาะที่ แทนการดมยาสลบ จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จะไม่เสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนจากการดมยาสลบครับ
2. ใช้เวลาผ่าตัดเร็วขึ้นเพียง 2-3ชม. ทำให้เนื้อเยื่อบวมช้ำน้อยลง และเวลาพักฟื้น เข้าที่เร็วขึ้นครั
3. ดึงหน้าในชั้นลึก (SMAS) ร่วมด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และอยู่คงทนถาวรมากขึ้นครับ
4. สามารถเลือกทำเป็นส่วน ๆ ที่มีปัญหาได้ โดยแบ่งใบหน้าเป็น 4 ส่วน ดังนี้
4.1 ดึงหางตา (Temporal lift) เพื่อแก้ไขหางตาที่ตก ให้ยกขึ้น และแก้รอยตีนกา (Crow’ s feet) บริเวณหางตา ทำให้ใบหน้าส่วนบนตึงขึ้น โหนกแก้มยกสูงขึ้น
4.2 ดึงหน้าส่วนกลาง (Midface lift) เพื่อยกโหนกแก้มขึ้น ทำให้ใบหน้าส่วนกลางตึงขึ้น
4.3 ดึงหน้าส่วนล่าง (SMASectomy + plication) เพื่อแก้ไขปัญหาร่องแก้ม (Nasolabial fold) ที่ลึกให้จางลง, แก้ไขร่องน้ำหมาก (Marionette line) ให้จางลง ทำให้ใบหน้าส่วนล่างตึงขึ้น ใบหน้าส่วนล่างที่หย่อน (Jowl) ถูกยกขึ้น ทำให้ดูเรียวขึ้นเป็น V-shape
4.4 ดึงคอ (Necklift) ทำให้ลำคอตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และเหนียงบริเวณคอ เพื่อให้เข้ากับส่วนของใบหน้าที่อ่อนวัยลง
ศัลยกรรมเสริมสะโพก
ตามติดกันมาเลยกับ ศัลยกรรมเสริมสะโพก กำลังมาแรงในช่วงปี 60 นี้ และกำลังเป็นที่สนใจในหมู่สาวๆ และในปี 61 นั้น ศัลยกรรมเสริมสะโพก จะต้องเป็น ศัลยกรรม ที่มาแรงแซงทางโค้งแน่นอน เพราะสาวๆหลายคนสนใจและมีการจองคิวผ่าตัดกันหนาแน่นเลยทีเดียว ศัลยกรรมเสริมสะโพก นั้นมีเพียงที่เดียวคือที่ โรงพยาบาลบางมด เท่านั้นที่ทำออกมาแล้วสวยดูเป็นธรรมชาติโดยมีเทคนิคที่ทันสมัยพร้อมกับซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจึงทำให้เหล่า ดารา นักแสดง และนางแบบ ต่างพากันสนใจนัดจองคิดผ่าตัดกับคุณหมอ
การเสริมก้น หรือเสริมสะโพกนั้น วิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ค่ะ วิธีแรก คือ การดูดไขมันตัวเอง มาฉีด (Lipofilling) เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินมาก สามารถดูดมาฉีดที่สะโพกหรือก้นได้ แต่ข้อเสีย คือ ไขมันมีโอกาสสลายได้ มีโอกาสแข็งเป็นก้อน ไม่เรียบ และ กำหนดรูปทรงได้ลำบาก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะคนที่รูปร่างผอม มักมีไขมันไม่เพียงพอที่จะดูดมาเสริมได้ค่ะวิธีต่อมา ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่า ปลอดภัย และได้ผลดีมาก คือ การเสริมด้วยถุงซิลิโคนเฉพาะสำหรับก้นและสะโพก (Gluteal implant) คล้ายๆ การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนครับ แต่เป็นถุงซิลิโคนเฉพาะสำหรับเสริมก้น รองรับแรงและ น้ำหนักได้มากกว่า สามารถเลือกขนาดและรูปทรงที่ต้องการได้ โดยแผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่บริเวณร่องก้น ข้อดีของวิธีนี้ นอกจากสวย ปลอดภัยแล้ว หากเกิดปัญหาในอนาคต ก็สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ค่ะ
ในสมัยก่อนการเสริมด้วยวิธีใช้ถุงซิลิโคนนั้น จะทำให้ก้นค่อนข้างแข็งและสัมผัสไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก แต่ในปัจจุบัน เรามีถุงซิลิโคนมีคุณภาพดีกว่าเดิม มีทั้งรูปทรงกลม วงรี หรือหยดน้ำ รวมทั้งมีวิธีการผ่าตัดที่จะผ่าบริเวณง่ามก้นทำให้ไม่เห็นรอยแผลเป็นชัด จากนั้น แพทย์จะใส่ถุงซิลิโคนไปในบริเวณกล้ามเนื้อก้นทั้งสองข้าง ส่วนจะเลือกขนาดหรือถุงรูปร่างแบบใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน และเทคนิคการผ่าตัดก็จะคล้าย ๆ กับการผ่าตัดเสริมเต้านมทั่วไป แต่อยากสวยก็ต้องทน เพราะคุณจะไม่สามารถนั่งได้ และต้องนอนอยู่ในท่าคว่ำ หรือตะแคงซ้าย–ขวา ห้ามนอนหงาย 3-5 วัน จากนั้นในเวลา 7-10 วันก็จะกลับกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติค่ะ
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Website : www.bangmodaesthetic.com
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
