_______________________________________

การรักษาที่ดีที่สุด นั่นคือ “การป้องกัน” 
Hippocrates

_______________________________________
 
สุขภาพร่างกายแข็งแรง ถือเป็นหนึ่งในความปรารถนาของมนุษย์ทุกคน และหลายคนพยายามหาวิธีการดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมรอบตัวในปัจจุบันทั้งมลพิษ, ฝุ่นละออง, ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน ทำให้หลีกเลี่ยงได้ยาก 
 
นอกจากนี้ รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบัน อย่างเช่น การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ, การเกิดความเครียดสะสม โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน, การนอนดึก, การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ ล้วนก่อให้เกิดผลกระทบต่อเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย 
 
 
 
แต่ด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกลกว่าเดิม และมากด้วยประสิทธิภาพ ทำให้ความปรารถนาของมนุษย์ที่อยากมีสุขภาพร่างกายดี และมีชีวิตที่ยืนยาว สามารถเป็นไปได้ ด้วยศาสตร์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า “เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine)” 
 
เวชศาสตร์ชะลอวัย คืออะไร ? 
เวชศาสตร์ชะลอวัย คือ การดูแลสุขภาพร่างกายแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับสุขภาพร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายโดยลงลึกถึงระดับเซลล์ อันเป็นหน่วยย่อยที่สุดของอวัยวะทุกอวัยวะของร่างกายมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็เป็นการฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
 
 
นอกจากจุดเด่นทางด้านการดูแลสุขภาพร่างกายแบบองค์รวมแล้ว ศาสตร์การแพทย์ด้านนี้ยังทำให้เราสามารถวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว เพื่อการมีสุขภาพที่ดีได้อีกด้วย เนื่องจากเราสามารถตรวจเช็คอัพถึงต้นเหตุของการเกิดภาวะบกพร่องต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียด การนอน และการรับประทานอาหารในแต่ละวัน รวมทั้ง ความอักเสบที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในต่างๆ ซึ่งเกิดจากเซลล์ในอวัยวะของเรามีการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ ค่อยๆ เสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว และการตรวจสุขภาพประจำปีไม่สามารถตรวจพบได้
 
การตรวจหา Anti Aging แตกต่างจากการตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร ?
สำหรับการตรวจร่างกายเพื่อดูแลสุขภาพตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัยปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ได้แก่ การตรวจเลือด, น้ำลาย, ปัสสาวะ, เส้นผม, เนื้อเยื่อ, การสแกนร่างกาย เป็นต้น แต่วิธีการตรวจที่ให้ผลลัพธ์แน่นอนที่สุด คือ การตรวจจากเนื้อเยื่อ เพราะจะแสดงให้เห็นถึงเซลล์ และระบบการทำงานของเซลล์มีการทำงานมากน้อยเพียงใดบ้าง
 
 

การตรวจร่างกายเพื่อดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จะเป็นการตรวจวิเคราะห์เจาะลึกถึงระดับเซลล์ในร่างกาย เพื่อดูว่าร่างกายมีความไม่สมดุลในเรื่องใดบ้าง, ต้นตอหรือสาเหตุความเสื่อมของร่างกาย, ฮอร์โมนในร่างกายที่ลดลง, สารอนุมูลอิสระสะสมที่เพิ่มมากขึ้น, สารอาหารหรือวิตามินชนิดใดไม่เพียงพอ, สายพันธุกรรมเทโลเมียร์หดสั้นลง เป็นต้น ซึ่งการตรวจสุขภาพทั่วไปไม่สามารถตรวจพบได้
 
หลังจากผลการตรวจวิเคราะห์ออกมาแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะคาดการณ์ความเสี่ยงจากข้อมูลสถิติที่ได้มีการบันทึกไว้ พร้อมให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันก่อนเกิดโรค สำหรับคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงให้ยังคงความแข็งแรงต่อไปได้ หรือในคนที่มีความเจ็บป่วย แพทย์จะช่วยปรุงวิตามิน, อาหารเสริม หรือเสริมฮอร์โมนทดแทนที่ตรงความต้องการของร่างกายให้กับแต่ละบุคคลตามผลวิเคราะห์ที่ออกมาได้อย่างแม่นยำ รวมถึง ฟื้นฟูให้สุขภาพร่างกายกลับมาแข็งแรง และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม 
 
 
 
สุขภาพดีจากภายใน ส่งต่อความงามภายนอกได้อย่างไร ?
นอกจากการดูแลรูปร่างและผิวภายนอก เพื่อความสวยงามและดูอ่อนเยาว์ ด้วย Facial Contouring (การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด) หรือการศัลยกรรมความงาม เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังแล้ว การดูแลร่างกายภายในควบคู่กันด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถือเป็นการเสริมรากฐานภายในให้แข็งแรง รวมทั้ง ยังคงสภาพผลลัพธ์ภายหลังการดูแลผิวภายนอกให้อยู่ได้ยาวนาน และเป็นธรรมชาติอีกด้วย
 
 
ทั้งนี้ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด หนึ่งใน One Stop Aesthetic & Wellness Center ระดับแถวหน้าของประเทศไทย ได้ออกแบบโปรแกรม “Bangmod Triple Facial Rejuvenation” เพื่อให้ทุกคนได้รับกับประสบการณ์ความงามเหนือระดับอย่างครบวงจรทั้งภายในและภายนอก ด้วย 3 ศาสตร์เพื่อความอ่อนเยาว์ของใบหน้า ได้แก่ การศัลยกรรมความงาม (การศัลยกรรมดึงหน้า), Facial Contouring (การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด) และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti Aging) ไว้ในที่เดียว ซึ่งในแต่ละคนจะได้รับคำแนะนำและการดูแลในลักษณะ Customized & Tailor-Made ตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล 
 
ดังนั้น การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย ควรดูแลครอบคลุมทั้งร่างกายภายนอกและสุขภาพร่างกายภายใน โดยเฉพาะในระดับเซลล์ทั้งหมด เพื่อผลลัพธ์ของสุขภาพร่างกายที่ยืนยาว และชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างธรรมชาติ
 
 
ใครเหมาะกับเวชศาสตร์ชะลอวัย?
เวชศาสตร์ชะลอวัย เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ แต่หากเข้ารับการดูแลรักษายิ่งเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีกับร่างกายของตัวเอง โดยเฉพาะในกลุ่มช่วงวัย 30 – 35 ปี ที่เริ่มมีการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายตามธรรมชาติ เพราะว่าการดูแลสุขภาพแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย เปรียบเสมือนการออกแบบเส้นทาง เพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น เวชศาสตร์ชะลอวัย จึงเป็นศาสตร์การดูแลสุขภาพที่ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติ และมีความสุขแบบที่ทุกคนใฝ่หาแม้ยามชรา
 
 
พญ.ศุภวงษ์ อัศดามงคล แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้กล่าวถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อการชะลอวัยว่า 
 
“การสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก นอกจากการดูแลผิวด้วยการศัลยกรรมความงาม และ Facial Contouring แล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายภายในก็เป็นสิ่งสำคัญและควรทำควบคู่กันด้วย เพราะถือเป็นการเสริมรากฐานตั้งแต่ภายในชั้นเซลล์ให้แข็งแรง รวมทั้ง ยังส่งผลให้ผลลัพธ์ภายหลังการดูแลผิวภายนอกจากการทำศัลยกรรมความงาม และการทำ Facial Contouring เป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนาน
 
 
การดูแลตนเองด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย เปรียบได้กับการออกแบบโมเดลสุขภาพและชีวิต เพื่อเตรียมเส้นทางในอนาคต ถือเป็นการวางรากฐาน เพื่อการดูแลสุขภาพในระดับลึกถึงเซลล์ อันเป็นหน่วยย่อยที่สุดของอวัยวะทุกอวัยวะของเราให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ผลลัพธ์ในระยะแรกอาจจะมองเห็นไม่ได้ชัดเจนหรือจับต้องไม่ได้ แต่จะค่อยๆ รู้สึกได้ในเรื่องของความอ่อนเพลียลดน้อยลง ความสดชื่นฟื้นคืนมา ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นในระยะเวลา 1-2 เดือน 
 
 
 
หลายคนเข้าใจว่า การตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปเพียงพอต่อการตระหนักรู้ถึงสุขภาพร่างกาย แต่แท้จริงแล้วไม่เพียงพอ เพราะการตรวจสุขภาพเป็นการตรวจเพื่อดูว่า ขณะนี้เราเกิดโรคหรือยัง และส่วนใหญ่อวัยวะเหล่านั้นเสื่อมสภาพไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 50% และเมื่อเกิดโรคแล้วจะเหลือเซลล์ที่ดีในการทำงานประมาณ 20-30% ดังนั้น เมื่อเป็นโรคจึงกลายเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย
 
เวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นเรื่องของการปรับไลฟ์สไตล์ ความเป็นอยู่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้อง เช่น การลดความเครียด การทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน หากจิตใจยังไม่พร้อม หรือยังไม่ได้ตั้งใจ ต่อให้มาตรวจหรือปรึกษาแพทย์แล้ว และแพทย์ได้ให้คำแนะนำ แต่หากใจยังไม่พร้อมมุ่งมั่น อาจจะทำให้การรักษาไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควร เพราะการเสริมฮอร์โมนหรือสารอาหารต่างๆ จะมีส่วนช่วยในการรักษาเพียง 20% เท่านั้น แต่อีก 80% เป็นพฤติกรรมของเรา”  
 
หากใครกำลังเริ่มต้นวางแผนการมีสุขภาพที่ดีอย่างยืนยาว พร้อมป้องกันโรคก่อนสาย “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี และช่วยต่อเติมชีวิตให้มีคุณภาพได้อย่างสมบูรณ์
 
“สวยครบ จบที่เดียว ที่โรงพยาบาลบางมด”
 
ปรึกษาปัญหาเรื่องศัลยกรรมครบวงจรเพิ่มเติมได้ที่ 
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เพิ่มเพื่อน