ศัลยกรรมความงามยุค 4.0
โลกเราทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) มีบทบาทอย่างมากในทุก ๆ ส่วนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตส่วนตัว หรือเรื่องการทำงาน เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนช่วยให้การดำเนินงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้น คนในปัจจุบันจึงได้นิยมนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่ “วงการศัลยกรรมความงาม”
พอดีเมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสสนทนา กับนายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ในเรื่องบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในวงการศัลยกรรมความงาม คุณหมอเล่าให้ฟังว่า ก็มีอยู่หลายด้านด้วยกัน อาทิ การจัดเก็บฐานข้อมูลคนไข้ การสนับสนุนการรักษาพยาบาล การให้คำปรึกษาทางไกลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป เรียกได้ว่า ยุคนี้ คือ ยุคศัลยกรรม 4.0 อย่างแท้จริง
เริ่มต้นด้วยการจัดเก็บฐานข้อมูลคนไข้ โรงพยาบาลบางมด ก็มีโปรแกรมการเก็บรักษาประวัติคนไข้ (Medical Record) ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับคนไข้ อาทิ ชื่อ-นามสกุล , ประวัติการทำศัลยกรรม , ประวัติการจ่ายยา , ประวัติการแพ้ยา , ผล Lab ต่าง ๆ รวมทั้งการนัดหมาย Follow up ผลการทำศัลยกรรม เป็นต้น ส่วนด้านการสนับสนุนการรักษาพยาบาล ด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เข้าด้วยกัน จนสามารถสร้างเครือข่ายข้อมูลทางการแพทย์ สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคนไข้ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาพยาบาลนั่นเอง
ในปัจจุบันโลกของเราถูกย่อขนาดให้เล็กลง เพราะประสิทธิภาพของการสื่อสารที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง ทำให้การติดต่อ สื่อสาร แจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่น หรือการให้คำปรึกษาทางไกล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชำนาญ ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ และแอพพลิเคชั่น LINE@ (@bangmod) จึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก คนไข้ส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลบางมด เป็นคนไทยที่พักอยู่ต่างประเทศ ถ้าจะให้เดินทางมาปรึกษาแพทย์ถึงเมืองไทย เห็นทีจะไม่ค่อยสะดวก เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โรงพยาบาลบางมด จึงได้สร้างช่องทางการติดต่อ สื่อสาร ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE@ (@bangmod) เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไข้ คนไข้สามารถส่งรูปภาพของตำแหน่งที่ต้องการทำศัลยกรรมปรึกษาแพทย์ได้ เมื่อคนไข้มีความมั่นใจ และพร้อมที่จะทำศัลยกรรมแล้ว จึงค่อยเดินทางมาทำที่โรงพยาบาลบางมด หรือหลังจากการทำศัลยกรรม หากคนไข้ไม่สะดวกเดินทางมา Follow up ที่โรงพยาบาล อาจจะ VDO Call มาให้คุณหมอดูผลการทำศัลยกรรม แทนการเดินทางมา Follow up ก็ได้เช่นกัน
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศยังสามารถช่วยในการให้ความรู้เรื่องการทำศัลยกรรมความงาม แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจ ผ่านรูปแบบภาพนิ่ง เช่น ภาพ Before / After และภาพเคลื่อนไหว เช่น คลิปบทสัมภาษณ์แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และคลิปรีวิวต่าง ๆ เป็นต้น ด้วยการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ของโรงพยาบาล ซึ่งครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ อาทิ Facebook, Instagram และ YouTube เป็นต้น และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่พลิกโฉมมิติใหม่ของวงการการศัลยกรรมความงามของไทย นั่นคือ Crisalix 3D เครื่องจำลองภาพ 3 มิติ ที่จะทำให้คุณเห็นใบหน้าของตัวเองอย่างสมจริง 360 องศา ทั้ง ตา จมูก ปาก และโครงหน้า เพื่อให้คุณเลือกแบบที่คุณต้องการ และเหมาะกับคุณมากที่สุด
ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด มีชื่อเสียงด้านการศัลยกรรมตาสองชั้นด้วย “เทคนิคบางมด” โดยที่แพทย์จะใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัด ทำให้บวมช้ำน้อยลง แผลหายเร็วขึ้น ซึ่งดีกว่าการใช้มีดผ่าตัดแบบด้านนอกที่ทำให้เสียเลือดมาก มีแผลยาว และแผลหายช้า นอกจากนี้ยังใช้การผ่าตัดไขมันออกทางด้านในตา เย็บชั้นจากด้านในทำให้แผลเล็ก และได้ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ การพักฟื้นน้อยกว่า โดยไม่ต้องตัดไหม และสามารถล้างหน้าได้ภายใน 1 วัน
สำหรับสาว ๆ ที่อยากเสริมหน้าอก แต่กังวล เพราะเคยได้ยินมาว่า การเสริมหน้าอกนั้น เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับ หมดกังวลได้เลยนะครับ เพราะด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยล่าสุด กับเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลทำให้ “เทคนิคบางมด” เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้จักกันอย่างดี ในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนหน้าอกจริงจนแทบแยกไม่ออก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบ Dual Plane และการส่องกล้องขณะผ่าตัด (Endoscopic assisted surgery) ทำให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด มีแผลเพียงเล็กน้อย หายเร็ว และเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยเฉลี่ยพักฟื้นเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
จากการที่ได้พูดคุยกับ นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล ทำให้ผมทราบว่า เรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคนิคทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมความงามของประเทศไทยเรานั้น พัฒนาไปอย่างมากเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่า ทั้งฝีมือของแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ เราไม่เป็นสองรองประเทศใดในโลกเลยครับ ถึงขนาดต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น ยังต้องบินไกลมาดูงานทางการแพทย์ของประเทศไทยเราเป็นประจำทุกปี คนไทยส่วนหนึ่ง ที่บินไปทำศัลยกรรมไกลถึง ต่างประเทศ แต่หารู้ไม่ว่าคนต่างประเทศจำนวนมาก ก็ต้องการบินมาทำศัลยกรรมที่ประเทศไทยของเราครับ
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในวงการศัลยกรรมความงาม อย่างที่ผมบอกไปในข้างต้นนะครับว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ ก็เพื่อจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้การดำเนินงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้น ถ้าพูดถึงการทำศัลยกรรม ทำยังไงก็ได้ให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด มีแผลเพียงเล็กน้อย หายเร็ว และเป็นธรรมชาติมากที่สุด นี่แหละครับ คือ ศัลยกรรมยุค 4.0 อย่างแท้จริง
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE@ : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
โลกเราทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) มีบทบาทอย่างมากในทุก ๆ ส่วนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตส่วนตัว หรือเรื่องการทำงาน เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนช่วยให้การดำเนินงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้น คนในปัจจุบันจึงได้นิยมนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายวงการ ไม่เว้นแม้แต่ “วงการศัลยกรรมความงาม”
พอดีเมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสสนทนา กับนายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ในเรื่องบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในวงการศัลยกรรมความงาม คุณหมอเล่าให้ฟังว่า ก็มีอยู่หลายด้านด้วยกัน อาทิ การจัดเก็บฐานข้อมูลคนไข้ การสนับสนุนการรักษาพยาบาล การให้คำปรึกษาทางไกลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป เรียกได้ว่า ยุคนี้ คือ ยุคศัลยกรรม 4.0 อย่างแท้จริง
เริ่มต้นด้วยการจัดเก็บฐานข้อมูลคนไข้ โรงพยาบาลบางมด ก็มีโปรแกรมการเก็บรักษาประวัติคนไข้ (Medical Record) ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับคนไข้ อาทิ ชื่อ-นามสกุล , ประวัติการทำศัลยกรรม , ประวัติการจ่ายยา , ประวัติการแพ้ยา , ผล Lab ต่าง ๆ รวมทั้งการนัดหมาย Follow up ผลการทำศัลยกรรม เป็นต้น ส่วนด้านการสนับสนุนการรักษาพยาบาล ด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เข้าด้วยกัน จนสามารถสร้างเครือข่ายข้อมูลทางการแพทย์ สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคนไข้ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาพยาบาลนั่นเอง
ในปัจจุบันโลกของเราถูกย่อขนาดให้เล็กลง เพราะประสิทธิภาพของการสื่อสารที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง ทำให้การติดต่อ สื่อสาร แจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่น หรือการให้คำปรึกษาทางไกล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชำนาญ ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ และแอพพลิเคชั่น LINE@ (@bangmod) จึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก คนไข้ส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลบางมด เป็นคนไทยที่พักอยู่ต่างประเทศ ถ้าจะให้เดินทางมาปรึกษาแพทย์ถึงเมืองไทย เห็นทีจะไม่ค่อยสะดวก เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โรงพยาบาลบางมด จึงได้สร้างช่องทางการติดต่อ สื่อสาร ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE@ (@bangmod) เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไข้ คนไข้สามารถส่งรูปภาพของตำแหน่งที่ต้องการทำศัลยกรรมปรึกษาแพทย์ได้ เมื่อคนไข้มีความมั่นใจ และพร้อมที่จะทำศัลยกรรมแล้ว จึงค่อยเดินทางมาทำที่โรงพยาบาลบางมด หรือหลังจากการทำศัลยกรรม หากคนไข้ไม่สะดวกเดินทางมา Follow up ที่โรงพยาบาล อาจจะ VDO Call มาให้คุณหมอดูผลการทำศัลยกรรม แทนการเดินทางมา Follow up ก็ได้เช่นกัน
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศยังสามารถช่วยในการให้ความรู้เรื่องการทำศัลยกรรมความงาม แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจ ผ่านรูปแบบภาพนิ่ง เช่น ภาพ Before / After และภาพเคลื่อนไหว เช่น คลิปบทสัมภาษณ์แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และคลิปรีวิวต่าง ๆ เป็นต้น ด้วยการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ของโรงพยาบาล ซึ่งครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ อาทิ Facebook, Instagram และ YouTube เป็นต้น และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่พลิกโฉมมิติใหม่ของวงการการศัลยกรรมความงามของไทย นั่นคือ Crisalix 3D เครื่องจำลองภาพ 3 มิติ ที่จะทำให้คุณเห็นใบหน้าของตัวเองอย่างสมจริง 360 องศา ทั้ง ตา จมูก ปาก และโครงหน้า เพื่อให้คุณเลือกแบบที่คุณต้องการ และเหมาะกับคุณมากที่สุด
ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด มีชื่อเสียงด้านการศัลยกรรมตาสองชั้นด้วย “เทคนิคบางมด” โดยที่แพทย์จะใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัด ทำให้บวมช้ำน้อยลง แผลหายเร็วขึ้น ซึ่งดีกว่าการใช้มีดผ่าตัดแบบด้านนอกที่ทำให้เสียเลือดมาก มีแผลยาว และแผลหายช้า นอกจากนี้ยังใช้การผ่าตัดไขมันออกทางด้านในตา เย็บชั้นจากด้านในทำให้แผลเล็ก และได้ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ การพักฟื้นน้อยกว่า โดยไม่ต้องตัดไหม และสามารถล้างหน้าได้ภายใน 1 วัน
สำหรับสาว ๆ ที่อยากเสริมหน้าอก แต่กังวล เพราะเคยได้ยินมาว่า การเสริมหน้าอกนั้น เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับ หมดกังวลได้เลยนะครับ เพราะด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยล่าสุด กับเทคนิคเฉพาะของโรงพยาบาลทำให้ “เทคนิคบางมด” เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้จักกันอย่างดี ในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนหน้าอกจริงจนแทบแยกไม่ออก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคแบบ Dual Plane และการส่องกล้องขณะผ่าตัด (Endoscopic assisted surgery) ทำให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด มีแผลเพียงเล็กน้อย หายเร็ว และเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยเฉลี่ยพักฟื้นเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
จากการที่ได้พูดคุยกับ นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล ทำให้ผมทราบว่า เรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคนิคทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมความงามของประเทศไทยเรานั้น พัฒนาไปอย่างมากเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่า ทั้งฝีมือของแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ เราไม่เป็นสองรองประเทศใดในโลกเลยครับ ถึงขนาดต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น ยังต้องบินไกลมาดูงานทางการแพทย์ของประเทศไทยเราเป็นประจำทุกปี คนไทยส่วนหนึ่ง ที่บินไปทำศัลยกรรมไกลถึง ต่างประเทศ แต่หารู้ไม่ว่าคนต่างประเทศจำนวนมาก ก็ต้องการบินมาทำศัลยกรรมที่ประเทศไทยของเราครับ
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในวงการศัลยกรรมความงาม อย่างที่ผมบอกไปในข้างต้นนะครับว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ ก็เพื่อจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้การดำเนินงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้น ถ้าพูดถึงการทำศัลยกรรม ทำยังไงก็ได้ให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด มีแผลเพียงเล็กน้อย หายเร็ว และเป็นธรรมชาติมากที่สุด นี่แหละครับ คือ ศัลยกรรมยุค 4.0 อย่างแท้จริง
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE@ : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos