The FACTs of Facelift Surgery [Part1]
เมื่อวงการแพทย์พัฒนาขึ้น ทุกคนอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลง การผ่าตัดดึงหน้า จึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความเข้าใจผิด เกิดการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริงขึ้นมากมาย ทำให้หลายคนได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามหลักการแพทย์ และเสียเงินจำนวนมาก ด้วยความคาดหวังเกินจริง เพราะหลงเชื่อตามคำโฆษณา
ไม่อยากให้ใครต้องถูกหลอกอีก !!!!!
- การผ่าตัดนี้ ถูกเรียกไปหลาย ๆ ชื่อ ตามการโฆษณา และการตลาด แท้จริงแล้ว คือการผ่าตัดเดียวกัน ซึ่งศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า "FACELIFT" หรือ rhytidectomy นั่นคือ การผ่าตัดดึงหน้า หากมีการใช้ศัพท์ใหม่ ๆ ที่ดู สวยหรู เพื่อให้ดูเสมือนเป็นเทคนิคใหม่ที่มีผลลัพธ์ดีเกินจริง แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- การผ่าตัด FACELIFT นี้ ทางการแพทย์มีทำกันทั่วโลกมานานหลายสิบปีแล้ว วิธีผ่าตัดโดยสังเขป คือ การเปิดชั้นผิวหนัง และไขมันของใบหน้าขึ้นมา จากนั้นเย็บ หรือตัดชั้น SMAS (ชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า) ให้ตึงขึ้น ตามด้วยการตัดชั้นผิวหนังส่วนเกินออกทางด้านข้าง โดยเก็บแผลผ่าตัดซ่อนอยู่บริเวณไรผม และ รอบใบหู
- การผ่าตัด FACELIFT ต้องมีแผลผ่าตัดทุกคน และมีการบวมช้ำในช่วงแรกทุกคน หากมีการโฆษณาว่า ไม่เห็นแผลผ่าตัด ไม่บวมไม่ช้ำเลย แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- จะลดอายุลงได้กี่ปี ? ไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้ เพราะเป็นมุมมองของแต่ละคน และขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทางการแพทย์จะตรวจวัดผลเป็นระดับความตึง ระดับความหย่อนคล้อยของใบหน้า แต่ไม่สามารถวัด หรือการันตีเป็นตัวเลขได้ว่า อายุจะลดลงเท่าไร หากมีการโฆษณาว่า ผ่าตัดแล้วใบหน้าจะเด็กลง 20 - 30 ปี แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- จะอยู่ได้นานกี่ปี ?? ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด สภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว ความหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคล แต่ทางการแพทย์ มีวิจัยว่า โดยเฉลี่ยประมาณ 5 ปี คนส่วนมากจึงจะกลับมาดึงหน้าซ้ำใหม่ (secondary facelift) บางท่านเลยถือเอาเลข 5 ปีมาใช้ว่า การดึงหน้าจะอยู่ได้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งไม่เป็นจริงสำหรับทุก ๆ คน ในปัจจุบันจึงยังไม่มีข้อสรุปในการผ่าตัดนี้ ว่าจะอยู่ได้นานกี่ปี หากมีการโฆษณาว่า ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานหลายสิบปี แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- แผลผ่าตัดจะเนียน สวย ทุกคน ไม่สามารถการันตีได้ เพราะลักษณะแผลผ่าตัด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นกัน การเย็บแผลของแพทย์ เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น กล่าวคือ แม้แพทย์จะเย็บแผลได้สวยมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางคนก็อาจเกิดแผลเป็นนูน หรือดึงรั้งได้ แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม หากมีการโฆษณา การันตีว่า แผลจะเนียนสวย ไม่เป็นแผลเป็นเลย แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
แล้วใครบ้างที่เหมาะสมกับการทำศัลยกรรม FACELIFT ???
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการทำ FACELIFT คืออะไร ???
ตัดสินใจอย่างไรให้คุ้มค่า ไม่โดนหลอก ???
ติดตามได้ในตอนต่อ ๆ ไปครับ
#TheFacts #Facelift
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เมื่อวงการแพทย์พัฒนาขึ้น ทุกคนอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลง การผ่าตัดดึงหน้า จึงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความเข้าใจผิด เกิดการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริงขึ้นมากมาย ทำให้หลายคนได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามหลักการแพทย์ และเสียเงินจำนวนมาก ด้วยความคาดหวังเกินจริง เพราะหลงเชื่อตามคำโฆษณา
ไม่อยากให้ใครต้องถูกหลอกอีก !!!!!
- การผ่าตัดนี้ ถูกเรียกไปหลาย ๆ ชื่อ ตามการโฆษณา และการตลาด แท้จริงแล้ว คือการผ่าตัดเดียวกัน ซึ่งศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า "FACELIFT" หรือ rhytidectomy นั่นคือ การผ่าตัดดึงหน้า หากมีการใช้ศัพท์ใหม่ ๆ ที่ดู สวยหรู เพื่อให้ดูเสมือนเป็นเทคนิคใหม่ที่มีผลลัพธ์ดีเกินจริง แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- การผ่าตัด FACELIFT นี้ ทางการแพทย์มีทำกันทั่วโลกมานานหลายสิบปีแล้ว วิธีผ่าตัดโดยสังเขป คือ การเปิดชั้นผิวหนัง และไขมันของใบหน้าขึ้นมา จากนั้นเย็บ หรือตัดชั้น SMAS (ชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า) ให้ตึงขึ้น ตามด้วยการตัดชั้นผิวหนังส่วนเกินออกทางด้านข้าง โดยเก็บแผลผ่าตัดซ่อนอยู่บริเวณไรผม และ รอบใบหู
- การผ่าตัด FACELIFT ต้องมีแผลผ่าตัดทุกคน และมีการบวมช้ำในช่วงแรกทุกคน หากมีการโฆษณาว่า ไม่เห็นแผลผ่าตัด ไม่บวมไม่ช้ำเลย แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- จะลดอายุลงได้กี่ปี ? ไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้ เพราะเป็นมุมมองของแต่ละคน และขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทางการแพทย์จะตรวจวัดผลเป็นระดับความตึง ระดับความหย่อนคล้อยของใบหน้า แต่ไม่สามารถวัด หรือการันตีเป็นตัวเลขได้ว่า อายุจะลดลงเท่าไร หากมีการโฆษณาว่า ผ่าตัดแล้วใบหน้าจะเด็กลง 20 - 30 ปี แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- จะอยู่ได้นานกี่ปี ?? ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด สภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว ความหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคล แต่ทางการแพทย์ มีวิจัยว่า โดยเฉลี่ยประมาณ 5 ปี คนส่วนมากจึงจะกลับมาดึงหน้าซ้ำใหม่ (secondary facelift) บางท่านเลยถือเอาเลข 5 ปีมาใช้ว่า การดึงหน้าจะอยู่ได้อย่างน้อย 5 ปี ซึ่งไม่เป็นจริงสำหรับทุก ๆ คน ในปัจจุบันจึงยังไม่มีข้อสรุปในการผ่าตัดนี้ ว่าจะอยู่ได้นานกี่ปี หากมีการโฆษณาว่า ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานหลายสิบปี แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
- แผลผ่าตัดจะเนียน สวย ทุกคน ไม่สามารถการันตีได้ เพราะลักษณะแผลผ่าตัด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นกัน การเย็บแผลของแพทย์ เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น กล่าวคือ แม้แพทย์จะเย็บแผลได้สวยมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางคนก็อาจเกิดแผลเป็นนูน หรือดึงรั้งได้ แม้จะมีโอกาสน้อยก็ตาม หากมีการโฆษณา การันตีว่า แผลจะเนียนสวย ไม่เป็นแผลเป็นเลย แสดงว่าคุณกำลังโดนหลอกแล้ว !!
แล้วใครบ้างที่เหมาะสมกับการทำศัลยกรรม FACELIFT ???
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากการทำ FACELIFT คืออะไร ???
ตัดสินใจอย่างไรให้คุ้มค่า ไม่โดนหลอก ???
ติดตามได้ในตอนต่อ ๆ ไปครับ
#TheFacts #Facelift
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos